ตำราการสร้างพระกริ่งของเมืองไทยมีมาแต่สมัยอยุธยา สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว หรือวัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง กระทั่งกรมพยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างพระกริ่งปวเรศ ในปี 2416 เป็นพระเนื้อสำริด จัดเป็นพระกริ่งสุดยอดของประเทศที่นิยมบูชาและมีราคาแพง
พระกริ่งปวเรศ ต้นตำรับพระกริ่งครั้งนั้นจัดสร้างตามแบบโบราณ ใช้โลหะเป็นมวลสาร ถึง 9 อย่าง ที่เราเรียกว่า นวโลหะ มีการสร้างจำนวนน้อยมาก เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระมหากษัตริย์และเหล่าเชื้อพระวงศ์ จึงกล่าวได้ว่า วัดบวรนิเวศวิหารเป็นแม่แบบในการสร้างพระกริ่งของเมืองไทยมาแต่โบราณ
ต่อ มาเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศนเทพวราราม ได้สืบทอดตำราการจัดสร้างพระกริ่งขึ้นมากมาย จึงเป็นที่นิยมและรู้จักกว้างขวางในหมู่พุทธศาสนิกชน และผู้นิยมสะสมพระเครื่องทั่วไป และพระองค์ยังเคยเห็นกรมพระยาปวเรศพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่ง แช่น้ำมนต์ให้คนไข้อหิวาต์กินหาย
พระกริ่งที่โด่งดังของวัดบวรในยุค หลังที่ผู้คนนักสะสมแสวงหา พระกริ่งบัวรอบ หรือพระกริ่งสุจิโต ปี 2487 พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ขอหล่อถวายพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระชนมายุครบ 6 รอบ และ เป็นพระกริ่งองค์แรกที่ทูลเกล้าถวายในหลวง รัชกาลปัจจุบัน นอกจากนี้วัดบวรยังมีการสร้างพระกริ่งรุ่นดังๆ อีก เช่น พระกริ่งไพรีพินาศ พระกริ่งชินสีห์ พระกริ่งสัมพุทโธ พระกริ่งฉลอง 80 พรรษา พระญาณสังวร พระกริ่ง 7 รอบ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร เมื่อปี 40 ล้วนทรงคุณค่าเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างกว้างขวางในปัจจุบันทั้งสิ้น
3 ตุลาคม 2552 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช จะทรงมีพระชนมายุครบ 8 รอบ และครบ 20 ปี ที่ทรงเป็นพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ โดยมีพระพรหมมุนี เป็นประธานจัดสร้างพระกริ่งฉลองพระชนมายุ 96 พรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเทิดพระเกียรติ จัดพิธีเททองที่พระอุโบสถวัดบวร มีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นประธานเมื่อ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา และจะทำพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ในวันอังคารที่ 22 กันยายน 2552
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2552